12 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2022
มีการคาดการณ์ไว้ว่าแนวโน้มทางเทคโนโลยีทั้ง 12 ประการที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ จะทำหน้าที่เป็นตัวทวีคูณของธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรมในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ดังนั้นเรามาดูกันว่า "12 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2022" มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ และมีอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราในด้านต่างๆ ไปดูกันเลยครับ!
เทรนด์ที่ 1 : Genative AI
ปัจจุบันนวัตกรรมเกิดขึ้นมาอย่างมากมายซึ่งนวัตกรรมต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกได้ และสร้างความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถสร้างความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย
แน่นอนว่า Genative AI นั้นมีศักยภาพในการสร้างเนื้อหา สร้างสรรค์รูปแบบใหม่ และวงจรการวิจัยการพัฒนาในด้านต่างๆ ตั้งแต่การแพทย์ไปจนถึงการสร้างผลิตภัณฑ์นั่นเอง
เทรนด์ที่ 2 : Autonomic Systems
ระบบอัตโนมัติเป็นระบบทางกายภาพ หรือซอฟต์แวร์ที่จัดการด้วยตนเอง โดยเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมและปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมของตนเองได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบนี้สร้างด้วยชุดความสามารถทางเทคโนโลยีที่คล่องตัว
อีกทั้งสามารถรองรับสถานการณ์ใหม่และความต้องการ ป้องกันการถูกโจมตีจากไซเบอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ด้วย
เทรนด์ที่ 3 : Total Experience
แน่นอนว่าการออกแบบในปัจจุบันนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการรวมเอาประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งจากผู้ให้และผู้รับบริการและทุกๆ รายละเอียดที่เป็นไปได้ โดยทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความคุ้นเคยของผู้ใช้ สร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจ และนำไปสู่ความภักดีที่เราจะได้รับจากพนักงานและลูกค้าในที่สุด!
เทรนด์ที่ 4 : Distributed Enterprises
การทำงานในปัจจุบันไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ที่ออฟฟิศเพียงอย่างเดียว เนื่องจากความก้าวล้ำของเทคโนโลยีทำให้องค์กรต้องออกแบบและปรับปรุงโครงสร้างทางเทคโนโลยีให้รองรับตามความต้องการ ที่เรียกว่าการทำงานด้วยดิจิทัลและระยะไกล โดยสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงาน คู่ค้า ผู้บริโภค ผ่านทางดิจิทัลได้
เทรนด์ที่ 5 : AI Engineering
ไม่อาจที่จะปฏิเสธไปได้เลยว่า AI (ปัญญาประดิษฐ์) นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะว่า AI กลายเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการพัฒนาทางด้านต่างๆ ดังนั้นองค์กรจึงมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่ด้วย ที่จะสามารถปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มมูลค่าให้องค์กรได้จริง!
เทรนด์ที่ 6 : Hyperautomation
แน่นอนเมื่อเกิดเทคโนโลยีขึ้น การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีต่างๆ จำเป็นต้องมีระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะจะช่วยเพิ่มคุณภาพของงาน ช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น และเร่งกระบวนการทำงานได้นั่นเอง
เทรนด์ที่ 7 : Decision Intelligence
แน่นอนว่าเทคโนโลยีสำหรับการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ต้องการของทุกองค์กร เนื่องจากสามารถช่วยในวิธีการตัดสินใจ ช่วยในการเรียนรู้ข้อมูล การเรียนรู้สิ่งใหม่ และวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อปรับแนวทางการตัดสินใจที่ดีขึ้นในการแนะนำมนุษย์ได้นั่นเอง
เทรนด์ที่ 8 : Composable Applications
composable applications เป็นการสร้างองค์ประกอบทางเทคโนโลยี (โดยอิงโมเดลของธุรกิจเป็นหลัก) ซึ่งสามารถทำให้แอปต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นนำโค้ดกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยให้เร่งเวลาในการออกสู่ตลาดสำหรับบริการใหม่ๆ ที่สำคัญยังรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่รวดเร็วอีกด้วย
เทรนด์ที่ 9 : Cloud-Native Platforms
ปัจจุบันและในอนาคตเชื่อว่าแอปพลิเคชันต่างๆ จะถูกพัฒนาให้มีความล้ำสมัยยิ่งขึ้นไปอีกมาก โดยสามารถรองรับการประมวลผลบนคลาวด์ แน่นอนว่าแอปเหล่านี้จะถูกออกแบบเพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้ากับการประมวลผลบนคลาวด์ที่ทันสมัย และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่รวดเร็วนั่นเอง
เทรนด์ที่ 10 : Privacy-Enhancing Computation
แน่นอนเมื่อเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างมากมายไม่ว่าจะดำเนินการเข้าใช้งานแพลตฟอร์มใดก็ตามส่วนใหญ่จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว หรือโดนโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลและอื่นๆ ดังนั้นจึงเกิดกฎกติกาเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลบุคคลมากยิ่งขึ้น หลายองค์กรเร่งพัฒนาระบบและสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีเพื่อจะประมวลข้อมูลได้อย่างปลอดภัย
เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยต่างๆ จึงถูกนำมาใช้เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ และลดความกังวลของผู้บริโภคด้วยนั่นเอง
เทรนด์ที่ 11 : Cybersecurity Mesh
โครงข่ายความปลอดภัยทางไซเบอร์ แนวคิดในการสร้างระบบที่อนุญาตให้ผู้กำหนดพื้นที่หรือระบุตัวตนเพื่อใช้ทรัพยากรได้ นับว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่หลายองค์กรต้องลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหลแบบที่เห็นกันอยู่ และจะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูลที่มีความเปราะบางนั่นเอง
เทรนด์ที่ 12 : Data Fabric
ในปัจจุบันข้อมูลเกิดขึ้นอย่างมากมายและในอนาคตเชื่อว่าจะเกิดขึ้นมูลมากยิ่งขึ้นเป็นมหาศาล ดังนั้นข้อมูลที่กระจายกันอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วโลกจะต้องให้ดูต่อเนื่องและเป็นผืนเดียวกัน
ซึ่งสามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้ทันทีโดย data fabric สามารถเรียนรู้การดึงข้อมูลมาใช้และแนะนำการจัดการข้อมูลด้วย แน่นอนว่าถ้าหากเกิดขึ้นจะทำให้ภาระในการจัดการข้อมูลลดลงได้ราว 70 % เลยล่ะ
อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีที่จะส่งผลให้เกิดความเป็นแปลงต่อองค์กรมีอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
- Accelerating Growth (การเติบโตแบบก้าวกระโดด)
- Sculpting Change (การเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปร่าง)
- Engineering Trust (ความน่าเชื่อถือทางวิศวกรรม)
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : gartner / thematter