7 แนวทางสู่การเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จ

7 แนวทางสู่การเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จ


งานสายออกแบบในปัจจุบันนั้นมีการแข่งขันอยู่สูงมาก อีกทั้งธุรกิจบริการเกี่ยวกับด้านการออกแบบของไทยนั้นยังไม่เติบโตเท่าที่ควร และประเทศไทยนั้นมีนักออกแบบอยู่จำนวนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ดังนั้นต่อให้มีความสามารถมากขนาดไหน โอกาสที่จะเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการอาจจะยากสักหน่อย เพราะหากไม่ปรับตัวและพัฒนาตัวเองตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

สำหรับหนทางที่จะพัฒนาให้เรากลายเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีวิธีการดังต่อไปนี้
1.หมั่นเรียนรู้ เพิ่มทักษะ
ถึงแม้ประสบการณ์และความสามารถของเราจะมากพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้นเราควรหมั่นฝึกฝนตัวเองอีกอย่างสม่ำเสมอ เพราะตลอดเวลานั้นโลกไม่หยุดนิ่ง แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็ต้องมีการคิดสิ่งใหม่ ประดิษฐ์สิ่งใหม่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นควรฝึกและพัฒนา เปิดใจเปิดสมองรับแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆ อัปเดตตัวเองให้ทันสมัยและนำไปปรับใช้กับงานของตัวเอง อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจต่อการออกแบบในอนาคต

2.ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นี้มีความสำคัญต่ออาชีพนักออกแบบอย่างมาก เพราะเราต้องนำทักษะที่มีมาพัฒนาให้เกิดเป็นผลงานเพียงหนึ่งที่ไม่ซ้ำใคร  ไม่ใช่การ Copy หรือดัดแปลงผลงานของคนอื่น ถ้าหากเรามีความคิดสร้างสรรค์และออกแบบผลงานอย่างโดดเด่นเสมอ ก็จะทำให้ตลาดต้องการตัวเราและต้องการผลงานของเรา

3.คิดนอกกรอบ
ทดลองทำสิ่งใหม่อยู่เสมอ ไม่ยึดติดรูปแบบเดิม ประกอบกับปัจจุบันที่เทคโนโลยีนั้นมีเครื่องมือที่หลากหลายมากขึ้นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการออกแบบผลงานมากขึ้น แต่ทั้งนี้พื้นฐานก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ เช่นการเสนองานกับลูกค้า ต่อให้คุณทำพรีเซ็นเทชั่น หรือทำ 3D มาอย่างสวยงาม แต่ถ้าหากต้องปรับแก้อีกนิดหน่อย พอแบบไม่ผ่านหรือเหลืออีกนิดเดียวก็จะผ่านแล้ว ถ้าเรามีความสามารถเพียงพอ บางทีงานที่สเก็ตซ์ออกไปจากมือในช่วงเวลาที่คับขันแบบนั้นก็ยังจำเป็น เพราะสามารถช่วยให้เคลียร์งานผ่านได้เลยโดยไม่ต้องหอบกลับมาแก้ไข แล้วก็นำกลับไปส่งใหม่อีกรอบ

4.เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
การที่เราเก่งหลายด้านนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราจับปลาหลายมือ ไม่เก่งไปซะทุกด้าน โอกาสที่จะได้ทำงานที่ท้าทายความสามารถที่จะส่งผลให้เรามีแนวผลงานที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นนั้นลดลง ประกอบกับการเติบโตในสายงานนนี้ก็จะน้อยลงด้วย และสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราย่ำอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้า และอาจตกงานได้

5.เก็บเกี่ยวประสบการณ์
ถ้าหากเรายังเป็นมือใหม่ ดังนั้นควรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ แต่ต้องเป็นหนทางที่สนับสนุนตัวเอง ไม่ใช่ลองทุกอย่าง ควรหาจุดโฟกัสให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้รู้แนวทาง หนทาง ว่าควรจะไปทางไหน ตัวอย่าง อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ควรเรียนรู้จากผู้ที่เป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ จากนั้นก็พัฒนาตัวเองเพื่อให้มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นเจ้าของกิจการ เพระาหากเราไม่เหมาะ หรือความสามารถไม่เพียงพอ อีกทั้งตลาดการแข่งขันที่สูงก็อาจทำให้เราล้มเหลวไม่เป็นท่าได้

6.สร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง
เพราะผลงานการออกแบบต่างๆ นั้นต้องมีเอกลักษณ์ หรือลายเส้นที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบ และจดจำผลงานของเราได้ เพียงแค่เห็นผลงานก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าใครคือเจ้าของผลงาน และการสร้างลายเส้นของตัวเองนั้นเป็นเรื่องยาก แต่หากเราฝึกฝนและหาสไตล์ของตัวเอง หาแรงบันดาลใจ ศึกษาจากผลงานของคนอื่น และพัฒนาฝึกฝนให้เกิดความแตกต่าง ให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่โดดเด่นและไม่ซ้ำใคร

7.สร้างโอกาส
อย่ามัวแต่รอให้โอกาสนั้นเข้ามาหาเรา สำหรับงานงานสายออกแบบนั้นถือว่ามีการแข่งขันสูงมากเมื่อเทียบกับสายงานอื่น เนื่องจากปัจจุบันผู้ว่าจ้างงานมีโอกาสเลือกนักออกแบบได้มากกว่าที่นักออกแบบจะเลือกโปรเจคงานนั่นเอง เพราะมีนักออกแบบอิสระ (ฟรีแลนซ์) และบริษัทรับออกแบบอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้เกิดการกดราคากันเอง หรือจากผู้ว่าจ้าง ถ้าหากคุณยังไม่มีชื่อเสียง หรือผลงานที่โดดเด่นเพียงพอย่อมที่จะเสียเปรียบในจุดนี้ การสร้างโอกาสให้ตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถทำให้งานวิ่งหาเราได้ เช่น การสร้าง PORTFOLIO ที่ดี และหลายหลายช่องทาง ทั้งออฟไลน์/ออนไลน์ ถ้าหากคุณสร้าง Portfolio / Showroom แสดงผลงานออกแบบของคุณไว้หลากหลายเว็บไซต์ ทั้งในประเทศ Designerhub.in.th หรือเว็บไซต์สากล เช่น behance.net รวมถึงช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook, Line, Instagram, pinterest เป็นต้น โอกาสที่ผู้ว่าจ้างจะเห็นผลงานของคุณย่อมมากกว่านักออกแบบที่เก่ง แต่ไม่รู้จักเผยแพร่ผลงานของตัวเอง และความสามารถของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก ย่อมจะทำให้เสียโอกาสได้งานที่หลากหลาย และจำกัดโอกาสของตัวเองในการเติบโตสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป








ที่มา : designerhub