ฝึกทักษะ Design ให้เก่งขึ้นได้ไม่ยาก

ไม่ว่าเราจะมีความรู้ทางด้านใดเป็นพิเศษ การหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและคอยฝึกฝนอยู่เสมอนั่นคือสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เรานั้นได้ฝึกสมองและเพิ่มความสามารถให้กับเราเอง อีกทั้งยังเป็นการฝึกทักษะต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ในส่วนของการฝึกทักษะเกี่ยวกับการ Design นั้นเราสามารถฝึกฝนและหาความรู้ได้ในอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม และการฝึกฝนด้วยตนเองนั้นจะทำให้เรามีทักษะที่หลากหลายและแนวทางที่เป็นของตัวเองมากที่สุด และวิธีต่อไปนี้จะช่วยให้เราได้ฝึกทักษะการออกแบบให้ดีขึ้น

1.เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของงานออกแบบ
เรื่องของการออกแบบนั้นมีเส้นทางและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน หลายคนอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นการช่วยเสริมทักษะของเราได้ แต่การทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของการออกแบบ วัฒนธรรม เทคโนโลยีต่างๆ ที่ควบคู่กับงานออกแบบตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนั้นก็สามารถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะดีๆ ให้กับเราได้
*เว็บไซต์ที่แนะนำ http://www.designhistory.org/index.html http://www.designishistory.com/

2.เข้าใจคำศัพท์พื้นฐานของงานออกแบบ
การศึกษาคำศัพท์พื้นฐานต่างๆ เกี่ยวกับการออกแบบจะช่วยให้เราสามารถเข้าใจพื้นฐานในการออกแบบได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยในการเริ่มต้นการจำประเภทเกี่ยวกับงานและรูปแบบของงานได้ดี สามารถศึกษาคำศัพท์ต่างๆ ได้จาก http://www.ucreative.com

3.เปิดเว็บดูงานออกแบบทุกวัน
การเปิดดูเว็บเพื่อให้เป็น Reference ในการออกแบบจะช่วยให้เรามีมุมมองความคิดที่แปลก หลากหลาย มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น เพราะการดูงานของคนอื่นนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะลอกเขา แต่เป็นการให้เกียรติในการชมผลงาน นอกจากนั้นควรใส่เครดิตเจ้าของผลงานด้วย หากเรานำมาเป็น Refernce ในการออกแบบ 
*เว็บไซต์ที่แนะนำ https://www.pinterest.com/ https://www.behance.net/ https://www.grappik.com/

4.ติดตามนักออกแบบที่ชอบ
โลกโซเชียลที่มีสื่อออนไลน์มากมายอย่างนี้การหานักออกแบบผู้เป็นไอดอลของเรานั้นไม่ยากเลยสักนิด มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ไปกด Follow ติดตามกัน หรือ Facebook Fanpage ที่อยากให้กด Like เอาไว้เพื่อติดตาม เพราะเมื่อไหร่ที่นักออกแบบไอดอลของเรานั้นอัพเดตผลงานเราก็จะได้ซึมซับ ดู และเสพงานได้อย่างทันที

5.ศึกษากระบวนการคิดงานออกแบบ
เพราะในการทำงานบางชิ้น ระยะเวลาในการทำก็มากมายจนเราไม่สามารถคอนโทรลได้ เราอาจจำเป็นต้องศึกษาหรือลองดูกระบวนการคิด การออกแบบของนักออกแบบเก่งๆ ที่พวกเขาอาจจะแชร์วิธีกระบวนการคิดลงสู่ Social ก็ได้ เมื่อใดที่เราเห็นสิ่งเหล่านี้โปรดอย่ามองข้าม เพราะถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ที่จะช่วยให้เราได้มีกระบวนการคิดที่น่าสนใจและน่าติดตาม

6.หาคอร์สเรียนออนไลน์แบบฟรี
ใครจะไปเชื่อว่ามีคอร์สเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการ Design แบบฟรีกันด้วย นี่ถือว่าเป็นผลประโยชน์ที่ดีต่อเรามากๆ ช่วยให้เราสามารถประหยัดเงิน และสามารถเก็บคอร์สไว้เรียนทีหลังก็ได้ 
*เว็บไซต์ที่แนะนำ https://www.udemy.com/ https://www.coursesquare.co/

7.Youtube ช่วยสอนได้
เรามี Social Media ไว้ทำอะไรบ้าง เพราะ Youtube และสื่ออื่นนั้นไม่ได้มีไว้เพียงแค่เชื่อมโยง สนทนากันในโลกโซเชียลเพียงอย่างเดียว ความรู้ที่หลากหลายก็มีให้เราได้ค้นหา สืบเสาะ เช่นกัน อย่างเช่น Youtube นอกจากจะให้ความบันเทิงกับเราแล้ว สาระความรู้อื่นๆ ก็มีมากมาย อย่าลืมว่าบางอย่าง Youtube ก็ช่วยสอนเราได้เหมือนกัน

8.ดู TED Talk เกี่ยวกับการออกแบบ
การดู TED Talk เปรียบเสมือนกับการไปนั่งฟังประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น และเป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดจากความรู้สึกล้วนๆ อีกทั้งข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่เราจะสามารถเข้าใจเราก็ต้องมีพื้นฐานในการออกแบบพอสมควรจึงจะทำให้เราสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง หรืออาจจะเป็นการดูไปเรื่อยๆ และศึกษาเพิ่มเติมไปด้วยก็จะเป็นประโยชน์กับเรามากเช่นกัน

9.แบ่งเวลาการเรียนรู้
คำว่าไม่มีเวลาคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำทุกอย่าง แต่ถ้าเราเห้นค่าของมัน ให้ความสำคัญกับมัน เพียงแค่เวลาไม่กี่ชม.ที่แบ่งมาศึกษาหาความรู้เหล่านี้เพิ่มเติม มันก็ถือว่าน้อยนิดมากๆ การที่คอยผลัดวัน หรือบ่ายเบี่ยงออกไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เราเกียจคร้านไปในที่สุด และทำให้เราไม่ได้พัฒนาตัวเองอย่างที่ตั้งใจหวังไว้ หรืออาจใช้วิธีกำหนดเวลาใน 1 อาทิตย์ ให้ได้สัก 5 - 6 ชม. โดยที่ไม่ได้ฟิกหรือกำหนดวันชัดเจน แต่ให้หมั่นฝึกฝนจนติดเป็นนิสัย แน่นอนว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เรามีทักษะเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย 

10.ลงมือและทำสิ่งใหม่
ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราได้ศึกษาเรียนรู้ ฝึกทักษะที่แท้จริงของเราได้มากเท่ากับการลงมือทำ เพราะหาเรามัวแต่มีทฤษฎีแน่นปึ๊ก แต่ไม่เคยลงมือปฏิบัติเลย แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าสิ่งที่เรารู้มานั้นมันเป็นจริงสักแค่ไหน การเริ่มลงมือทำเพียงเล็กน้อยนั่นเองจะช่วยให้เราค่อยๆ มีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้น และภาคภูมิใจในตัวเองมากที่สุด

ที่มา : grappik