"อีริคสัน" เปิด 10 เทรนด์ผู้บริโภคมาแรงในอนาคต

"อีริคสัน" เปิด 10 เทรนด์ผู้บริโภคมาแรงในอนาคต

อีริคสันได้เปิด 10 เทรนด์ผู้บริโภคมาแรง "ชีวิตในอนาคตท่ามกลางผลกระทบจากสภาพอากาศ (Life in a Climate-Impacted Future)"

 

โดยประมาณ 99% ของกลุ่มผู้นำกระแสด้านเทคโนโลยีทั่วโลกกว่า 15,000 ราย ที่ได้ให้ข้อมูลกับ อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) กล่าวว่า... ภายในปี 2030 นั้น การใช้อินเทอร์เน็ตและโซลูชั่นการเชื่อมต่อจะเป็นแบบเชิงรุก ฉะนั้นจะทำให้แต่ละคนสามารถรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ และสภาวะโลกร้อนที่เจาะจงมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามสถิตินี้อยู่ในผลการวิจัยประจำปีล่าสุด 10 Hot Consumer Trends จาก Ericsson ConsumerLab แต่ในปีนี้ให้ชื่อเรียกว่า Life in a Climate-Impacted Future

 

จากรายงานที่เผยแพร่ในเดือนมกราคมปีนี้นั้น เป็นฉบับที่ 12 ที่ให้ภาพรวมของข้อกังวล ความคาดหวังของผู้บริโภค ตลอดจนความคิดเห็นในการใช้เทคโนโลยีส่วนบุคคลสำหรับการรับมือกับปัญหาด้านสภาพอากาศในปี 2030 มีดังนี้

1. 55% ของผู้ใช้กลุ่ม Early Adopters (ผู้ใช้รายแรก) ในเขตเมืองใหญ่ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลเสียต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา และเตรียมมุ่งไปใช้โซลูชั่นการเชื่อมต่อต่างๆ เป็นมาตรการรับมือ ข้อกังวลหลักๆ ของผู้บริโภค

 

2. 59% ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่า ในช่วงทศวรรษ 2030 นวัตกรรมและเทคโนโลยีจะมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อรับมือกับความท้าทายในชีวิตประจำวันที่มาจากผลการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

 

3. 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าอุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.5 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่านั้น (สูงกว่าระดับก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม) ซึ่งเกินขีดจำกัดตามข้อตกลงระหว่างประเทศ อันทำให้เกิดสภาวะอากาศแบบสุดขั้ว และมีแนวโน้มสร้างผลกระทบเชิงลบ

 

ผู้เชี่ยวชาญของ Ericsson ConsumerLab ได้รวบรวมข้อมูล และสรุปเป็น 10 เทรนด์มาแรงของผู้บริโภค

โดยกระแส Climate Cheaters เน้นให้เห็นถึงการรับรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ที่อาจจะฝืนความรู้สึก แต่เป็นความจริงอย่างมากที่อาจมีการโกงเพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสภาพอากาศ เช่น การจ่ายบิลหรือการบันทึกข้อมูล เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

โดยผู้ตอบแบบสำรวจประมาณ 72% คาดว่าจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเลี่ยงข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวในระยะสั้น ซึ่งประเด็นนี้เป็นการเตือนจริงจังเกี่ยวกับความสำคัญของการมุ่งเน้นไปที่ความน่าเชื่อถือของบริการอย่างต่อเนื่อง

 

THE TRENDS

1. Climate Cheaters ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ผู้บริโภคจะหาทางหลีกเลี่ยงความเข้มงวดของข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากราคาที่สูงขึ้น และการปันส่วนพลังงานและน้ำ กว่าครึ่งของกลุ่มผู้นำกระแสในเมืองคาดว่า แอปแฮ็คออนไลน์จะช่วยให้พวกเขาลักน้ำประปาไฟฟ้าของเพื่อนบ้านมาแบบผิดกฎหมาย

 

2. Natureverse "การสัมผัสธรรมชาติในเมืองโดยไม่ต้องเดินทางอาจเป็นเรื่องปกติในยุค 2030" เช่นเมื่อต้องอยู่กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง และข้อจำกัดด้านการเดินทางที่อาจเกิดขึ้น 4 ใน 10 ของกลุ่มผู้นำกระแสในเมืองต้องการใช้บริการการเดินทางเสมือนจริง ที่ช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ และเส้นทางบนภูเขาแบบเรียลไทม์ ประหนึ่งว่าพวกเขาได้อยู่ตรงนั้นเอง

 

3. Less is more digita "การเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอาจกลายเป็นเครื่องหมายแสดงสถานะ" เนื่องจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัตถุมากเกินความจำเป็น อาจต้องเผชิญกับราคาแพง และถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม 

 

ซึ่งพฤติกรรมลดการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นวัตถุจะเร่งขยายตัวขึ้น เนื่องจาก 1 ใน 3 ของกลุ่มผู้นำกระแสในเมืองเชื่อว่าโดยส่วนตัวแล้วพวกเขาจะใช้แอปช้อปปิ้งที่แนะนำทางเลือกดิจิทัลแทนผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้

 

4. The Enerconomy บริการแบ่งปันพลังงานแบบดิจิทัล อาจช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้นในทศวรรษ 2030 พลังงานอาจกลายเป็นสกุลเงินได้ เนื่องจาก 65% ของกลุ่มผู้นำกระแสในเมืองคาดว่าผู้บริโภคจะสามารถชำระค่าสินค้าและบริการเป็นหน่วยกิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

 

5. Smart Water เนื่องจากน้ำจืดในทศวรรษ 2030 อาจเป็นของที่หายากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคบริการน้ำที่มีความอัจฉริยะเพื่อเก็บและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มผู้นำกระแสในเมืองกล่าวว่าจะใช้เครื่องดักจับน้ำอัจฉริยะบนหลังคา ระเบียง และหน้าต่างที่เมื่อฝนตกก็เปิดเพื่อกักและทำความสะอาดน้ำฝน

 

6. New Working Climate ข้อจำกัดด้านคาร์บอนฟุตปริ้นขององค์กร ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลที่เร่งตัวขึ้นจะกำหนดรูปแบบกิจวัตรการทำงานในอนาคต 7 ใน 10 คนคาดว่าผู้ช่วย AI ของบริษัทจะวางแผนการเดินทาง กำหนดภาระงาน และทรัพยากรต่างๆ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

 

7. S(AI)fekeepers คาดว่า AI จะเป็นขุมพลังสำคัญให้กับการที่คอยปกป้องผู้บริโภคในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนและคาดการณ์ไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มผู้นำกระแสในเขตเมืองกล่าวว่า พวกเขาจะใช้ระบบเตือนภัยสภาพอากาศส่วนบุคคลเพื่อความปลอดภัยของตนเอง

 

8. No-Rush Mobility ตารางเวลาที่เคร่งครัดอาจกลายเป็นเรื่องของเมื่อวาน เมื่อความหมายของความยืดหยุ่นเปลี่ยนไป อันเนื่องมาจากกฎระเบียบด้านสภาพอากาศและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ประมาณ 68% ของผู้ตอบแบบสำรวจ จะมีการวางแผนกิจกรรมโดยใช้ตัวกำหนดตารางเวลาที่เพิ่มประสิทธิภาพตามต้นทุนด้านพลังงาน ไม่ใช่ประสิทธิภาพด้านเวลา

 

9. Unbroken Connections การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ และมีความยืดหยุ่นจะมีความสำคัญมากขึ้นมาก เมื่อมีเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงเพิ่มขึ้น โดย 80% ของกลุ่มผู้นำกระแสในเขตเมืองเชื่อว่าหากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ จะมีตัวระบุตำแหน่งสัญญาณอัจฉริยะที่แสดงพื้นที่ครอบคลุมอย่างเหมาะสมในทศวรรษ 2023

 

10. Cost Cutters บริการดิจิทัลจะช่วยให้ผู้บริโภคควบคุมค่าอาหาร พลังงาน และค่าเดินทางในสถานการณ์สภาพอากาศที่ไม่แน่นอน มากกว่า 60% ของกลุ่มผู้นำกระแสในเขตเมืองแสดงความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นในอนาคต


 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ที่สามารถนำไปสร้างไอเดียปรับใช้และเกิดความคิดสร้างสรรค์ที่มีประโยชน์ต่อสังคมได้ในอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องนี้สามารถอ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ > 10 Hot Consumer Trends: Life in a Climate-Impacted Future report

 

"ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ"


 

 






 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : thaipr.net / canadatoday.news / morocco.detailzero.com / ryt9.com