ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างไร
ปัจจุบันผู้คนต่างตระหนัก และให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัวมากๆ ด้วยเหตุผลหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นภัยอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลมาได้อย่างไร จากข่าวข้อมูลส่วนบุคคลหลุดฯ หรือจากบางธุรกิจที่ไม่ใส่ใจข้อมูลของลูกค้า และด้วยเหตุผลอื่นๆ เป็นต้น
นอกจากคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ และความไว้วางใจจากลูกค้าหรือผู้ที่กำลังจะเป็นลูกค้านั้นสำคัญมากๆ หากบริษัทต่างๆ ไม่ให้ความใส่ใจ อาจจะส่งผลเสียในระยะยาวตามมาก็เป็นได้ เช่น การรับรู้ถึงแบรนด์ ด้านดี/ด้านไม่ดี สิ่งนี้จะฝั่งลงลึกในความทรงจำของลูกค้า
ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่ลงลึกเราไปพูดถึง “ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างไร” กันเลยครับ
แน่นอนว่าการแก้ปัญหาข้อมูลส่วนบุคคล จะสามารถช่วยให้ทุกบริษัทสามารถจัดการกับความเสี่ยงได้ครบทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยด้านผู้บริโภคนั้น 85% ต้องการทราบว่าธุรกิจใดบ้างที่รวบรวมข้อมูลของพวกเขา....
ซึ่งหากบริษัทต่างๆ นั้นมีความล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นมืออาชีพแล้วนั้น อาจจะนำไปสู่ความเสี่ยงต่างๆ ดังต่อไปนี้ได้
ความเสี่ยงทางการเงิน : บทลงโทษทางกฎหมายและข้อบังคับ ตลอดจนต้นทุนทางอ้อม เช่น การสูญเสียโอกาสทางธุรกิจและความสามารถในการผลิตที่ลดลง นั่นเอง
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ : หากข้อมูลทางธุรกิจไม่ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่มีการป้องกันที่ดีพอ อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและทำให้พลาดโอกาสที่สำคัญไปได้
ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง : ข่าวในแง่ลบและความไว้วางใจที่ลดลงอาจนำไปสู่การสูญเสียลูกค้า และยอดขายซึ่งอาจก่อให้เกิดความล้มเหลวในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ รวมไปถึงซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจให้ดำเนินงานร่วมกับทางบริษัท
ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ : การหยุดชะงักของกระบวนการทำงาน หรือการสูญหายของข้อมูลสำคัญที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจอาจทำให้เกิดความล่าช้า ลดประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มต้นทุนอีกด้วย
ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฏระเบียบ : ทำให้เกิดบทลงโทษทางกฎหมายและทางการเงิน
ดังนั้น เมื่อมีการติดตั้งระบบศูนย์ควบคุมความเป็นส่วนตัวแล้ว ธุรกิจต่างๆ จึงจะสามารถประเมินการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้แบบเรียลไทม์
และสำหรับ Dashboard (แผงควบคุม) ความเป็นส่วนตัวนั้น จะสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งทีมกฎหมาย ทีมรักษาความปลอดภัยและทีมผู้บริหาร เพื่อช่วยตรวจสอบสถานะและผลกระทบของการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
ซึ่งการมี Dashboard ความเป็นส่วนตัวแบบเห็นภาพรวมของโปรแกรมและคำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับ workflow (ขั้นตอนการทำงาน) จะสามารถช่วยเพิ่มกลยุทธ์ทางกฎหมายและความปลอดภัยที่มาพร้อมกับวิธีการที่ทันสมัยในการวัดและทำความเข้าใจความเสี่ยง เช่น
การลดความเสี่ยงทางธุรกิจ : dashboard นั้นมีอินเทอร์เฟซเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคล และระบุโอกาสในการปรับปรุงโปรแกรมความเป็นส่วนตัวจากอินเทอร์เฟซ
การจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจน : โดยทีมจะสามารถพิจารณางานที่เร่งด่วนและใช้ข้อมูลในการคาดการณ์แนวโน้มของโปรแกรมความเป็นส่วนตัว เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องโดยการปรับปรุงทั้งโฟกัสและความเร็ว
ที่มาของข้อมูล : ธุรกิจต่างๆ สามารถตรวจสอบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและระบุโอกาสในการปรับปรุงโปรแกรมความเป็นส่วนตัวจากอินเทอร์เฟซ
Privacy ROI : บริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงระบบได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเชื่อมต่อโปรแกรมความเป็นส่วนตัวไปยังส่วนอื่นๆ ขององค์กรได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาข้อมูลส่วนบุคคลคือ การทำความเข้าใจอย่างรอบด้านเพื่อลดโอกาสเกิดความเสี่ยง ซึ่งหากเราสังเกตดีๆ แล้วจะพบว่า หลายแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจะทราบดีอยู่แล้วว่า
การลดความเสี่ยงทางธุรกิจสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อแบรนด์เหล่านี้เข้าใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดเก็บไว้ที่ใดและนำไปใช้อย่างไร นักรบ เนียมนามธรรม กล่าว
สามารถอ่านรายละเอียด “ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างไร” ฉบับเต็มได้ ที่นี่
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก : By นักรบ เนียมนามธรรม / bangkokbiznews