How to “ขาย” การออกแบบของเราให้กับลูกค้า

How to “ขาย” การออกแบบของเราให้กับลูกค้า

แน่นอนว่า “การออกแบบที่สวยงาม” ไม่ได้ขายตัวมันเอง การออกแบบกราฟิกเป็นรูปแบบศิลปะที่เป็นอัตนัย และอาจเป็นเรื่องยากที่ลูกค้าจะรู้ว่าควรเลือกอะไร 

 

ซึ่งหากไม่มีบริบทหรือการนำเสนอที่น่าเชื่อถือ ลูกค้าของเราอาจพลาดรายละเอียดอันชาญฉลาดที่ทำให้การออกแบบของเราเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด 

 

หรือพวกเขาอาจไม่เข้าใจความคิดอันลึกซึ้งที่อยู่เบื้องหลังแนวทางอันสุนทรีย์ของเรา อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลงานที่เราได้สร้างสรรค์ออกมาจะดูสมบูรณ์แบบในสายตาของเรา แต่อย่าลืมว่าเรายังต้อง “ขาย” ชิ้นงานที่เราสร้างสรรค์ออกมาให้กับลูกค้า

 

ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ลูกค้าพอใจ ภูมิใจ และเห็นคุณค่าในชิ้นงานของเรา ในบทความนี้เราจะแบ่งปัน 6 วิธีในการทำให้ลูกค้าของเราหลงรักการนำเสนอการออกแบบของเรา

 

การนำเสนอคือสิ่งสำคัญ

โปรดจงจำไว้ให้ขึ้นใจนะครับว่า “การเสนอขายของเราจะช่วยส่งเสริมยกระดับธุรกิจของลูกค้าอย่างไร” โดยมีงานออกแบบของเราเป็นศูนย์กลาง ซึ่งหากเรานึกถึงสิ่งนี้เราจะมองเห็นภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น 

 

ดังนั้น เมื่อเรารวบรวมแนวคิดของเราได้แล้ว การพิจารณารูปแบบที่เราจะนำเสนอการออกแบบก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามอย่าลืมให้พื้นที่ทำงานของเราได้หายใจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับได้จริงๆ การอัดรายละเอียดมากเกินไป อาจทำให้การเสนอขายวุ่นวายและแยกแยะได้ยาก

 

สร้างบริบทให้กับการออกแบบของเรา

โปรดจงจำไว้นะครับว่า ขั้นตอนการอธิบายต่อลูกค้านั้นสำคัญเสมอในฐานะส่วนหนึ่งของการเสนอขาย ดังนั้นช่วยทำให้พวกเขาเข้าใจกระบวนการคิดเบื้องหลังของการออกแบบ โดยแนะนำแนวทางของเราอย่างชัดเจนและชี้ให้เห็นรายละเอียดที่น่าสนใจ

 

ตัวอย่างเช่น หากต้องการกระตุ้นการเสนอขายของเราอย่างมืออาชีพ เราควรใช้ keywords จาก Creative brief ของลูกค้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรารับฟังความต้องการของพวกเขาและจะนำไปใช้ในงานของเราอย่างไร

 

โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยเชื่อมโยงการออกแบบของเรากับวิสัยทัศน์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งพวกเขาจะขอบคุณความเอาใจใส่ของเรา

 

อย่าติดอยู่ในรายละเอียดมากเกินไป 

หากเราเสนอตัวเลือกมากมายให้กับลูกค้าสำหรับโปรเจ็กต์ออกแบบ โปรดจำไว้นะครับว่าแต่ละตัวเลือกควรมีมุมมองที่ชัดเจน ซึ่งการเสนอขายคือ การกำหนดทิศทางโดยรวมที่ลูกค้าของเราต้องการ

 

ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าของเราเลือกทิศทางแล้ว จากนั้นเราเริ่มกระบวนการแสดงความคิดเห็นได้ ดังนั้นการทำบางอย่างให้ชัดเจนและเสนอทางเลือกให้น้อยลงจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพื่อให้ลูกค้าสามารถให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยที่ไม่รู้สึกหนักใจ 
 

จัดแสดงสินค้าที่เหมาะกับอุตสาหกรรม

เริ่มจากตั้งคำถามกับตัวเองว่า สินค้าของเรานั้นจะแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างไร (และนี่เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการทราบมากที่สุด) ดังนั้นในฐานะนักออกแบบเราสามารถทำให้พวกเขาเห็นภาพนี้ได้

 

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าลูกค้าของเรากำลังเริ่มต้นธุรกิจแฟชั่นระดับไฮเอนด์ เราสามารถแสดงให้พวกเขาเห็นว่าโลโก้ของเราเปรียบเทียบกับโลโก้อื่นๆ ในอุตสาหกรรมได้อย่างไร

 

ใช้คำพูดอย่างระมัดระวังและเข้าใจง่าย

สิ่งสำคัญคือเราควรสื่อสารด้วยความถ่อมตัว เชิงบวก และความรู้สึกสบายใจ โดยดูที่คำพูดและบุคลิกน้ำเสียงของลูกค้าเป็นหลัก เมื่อเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้วต่อไปคือ การใช้คำศัพท์ด้านการออกแบบให้เป็นสิ่งที่เข้าใจง่าย เนื่องจากเราจะทำงานร่วมกับลูกค้าในกระบวนการสร้างสรรค์งาน 

 

ดังนั้น ทุกบทสนทนาที่เข้าใจง่าย สามารถเล่าเกี่ยวกับการออกแบบได้มากกว่าคำศัพท์ด้านการออกแบบที่แข็งแกร่ง

 

ให้พื้นที่ลูกค้าของเรา

หลังจากที่เราแชร์ข้อเสนอกับลูกค้าแล้ว ให้เรามีพื้นที่ให้พวกเขาไว้สำหรับไตร่ตรองทุกอย่าง โดยการฝากช่องทางให้พวกเขา เช่น เรายินดีให้คำตอบทุกอย่างเกี่ยวกับการออกแบบ ไปจนถึงการทำการตลาดด้วยชิ้นงานและอื่นๆ เป็นต้น 

 

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วการเสนอขายลูกค้าก็เหมือนกับการออกเดท หากเราซื่อสัตย์ มั่นใจ และเข้าถึงได้ ลูกค้าของเราก็จะมองว่าเราเป็นคนที่พวกเขาสามารถร่วมงานด้วย อย่างมีความสุขเป็นเวลานานนั่นเอง 

 

 

 

 

 

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก: 99designs.com