เรามาดู 7 เทรนด์สี ปี 2022

เรามาดู 7 เทรนด์สี ปี 2022

ในปีที่ผ่านมานั้นเราจะเห็นว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยีนวัตกรรมต่างๆ ผู้คนสังคมและเศรษฐกิจมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง แต่บทความนี้เราจะพามาดูเกี่ยวกับเรื่องของสี โดยเราจะมาเล่าถึงเทรนด์สีประจำปี 2022 ว่าแต่ละโทนสีนั้นยังสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ที่เรานั้นได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว เรามาดูวิวัฒนาการของสีที่มีอย่างต่อเนื่องและมีเรื่องของดิจิทัล ความหวัง พลังบวก และความมั่นใจ สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับแบรนด์สินค้าต่างๆ หรือชีวิตประจำวันเราอย่างไรบ้างเราไปดูกันเลยว่า 7 โทนสีนี้เป็นอย่างไรแบบเจาะลึกก่อนใครๆ ได้เลยครับ

 

สีแรกเลยก็คือ สีครีม ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งความดี การมีจิตใจที่ดีงาม และเป็นตัวแทนแห่งการปรนนิบัติตัวเอง สามารถปลอบประโลมตัวคุณให้มีแต่ความสุข และมีจิตใจที่ดีงาม คล้ายกับช่วงเวลาแห่งการปรนนิบัติตนเอง ที่คุณนั้นได้ทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบนั้นเองล่ะครับ เราเคยสังเกตกันไหมครับว่าเฉดสีครีมส่วนใหญ่นั้นจะอยู่บนผลิตภัณฑ์สกินแคร์ งานออกแบบ ตกแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งตามพวกบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เพราะทำให้รู้สบายตา นิ่มนวล และดูอบอุ่นอีกด้วยล่ะครับ

 

ในส่วนต่อมาครับคือ สีฟ้า เป็นตัวแทนของความเป็นภูมิปัญญา นวัตกรรม และรอยต่อระหว่างน้ำและท้องทะเล เพราะโทนสีฟ้านั้นเปรียบเสมือนตัวแทนของสิ่งแวดล้อม ที่คอยผลักดันให้ผู้คนนั้นตระหนักถึงปัญหา ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อีกทั้งยังส่งผลต่ออารมณ์และความเห็นใจ เราได้สังเกตกันไหมครับว่าเฉดสีเหล่านี้จะอยู่ระหว่างรอยต่อของท้องฟ้ากับท้องทะเล ที่เปรียบดั่งรอยต่อระหว่างธรรมชาติและนวัตกรรมที่ทันสมัยในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคตอีกด้วยครับ

 

ในส่วนของสีม่วงนั้นคือ ตัวแทนแห่งการสร้างสรรค์สำหรับโลกเสมือน อย่างที่เราได้กล่าวไปในบทความข้างต้นแล้ว แน่นอนครับว่าในปี 2022 ก็ยังคงอยู่กับเรื่องของโลกออนไลน์นั่นเองครับเพราะโลกของเรานั้นได้ทะยานเข้าสู่โลกเสมือนอย่างเต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นสีที่บ่งบอกถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์ก็ต้องยกให้เป็นสีม่วงเลยครับ เพราะเป็นสีที่ให้ความรู้สึกที่สามารถลดความตึงเครียดทางด้านอารมณ์ได้อีกด้วย และยังเป็นสีตั้งต้นที่นำมาใช้ในการสร้างสรรค์โลกเสมือนที่ทำให้ดูมีพลัง ลึกลับน่าค้นหาและดูทันสมัยเข้ากับโลกแห่งเทคโนโลยีด้วยอีกครับ

 

เรามาดูสีเหลืองเข้ม กันต่อครับ ในส่วนของสีเหลืองนั้นเป็นสีตัวแทนแห่งความมั่นใจ และการกักตุนพลังบวกเอาไว้ภายใน ซึ่งเป็นการเพิ่มเฉดสีของความเข้มข้นขึ้น หรือที่เรียกว่าเฉดสีม่วงสุก โดยสีนี้ได้จัดให้อยู่ในโทนสีแห่งความมั่นใจ และเป็นสีที่ใช้ไว้กักตุนพลังบวกไว้ภายในจิตใจส่วนมากจะนิยมมาใช้ในสินค้าแฟชั่นและงานออกแบบ DIY เพื่อที่จะสามารถออกแบบและระเบิดความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างเต็มที่

 

สีต่อมาคือสีเขียวสะท้อนแสงเป็นตัวแทนแห่งความซ่าบซ่า โดยหลอมรวมระหว่างความเก่ากับความใหม่ไว้ด้วยกัน เพราะสีเขียวสะท้อนแสงนั้นให้ความรู้สึกแปลกใหม่ สดชื่น และซ่าบซ่านั้นเอง เราได้สังเกตกันไหมครับว่าสีเขียวสะท้อนแสงนี้จะถูกนำไปใช้ในการทำแฟชั่นของเสื้อผ้า และกระเป๋าแบรนด์ต่างๆ เพราะในช่วงหลังมานี้เริ่มมีการนำสีเขียวสะท้อนแสงมาใช้ในงานแฟชั่นต่างๆ มากยิ่งขึ้น

 

มาถึงในส่วนของสี ชมพูอมม่วง ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งการปลดปล่อยพลังกายพลังใจ ของมนุษย์ จะส่งเสริมมอบพลังขับเคลื่อนทั้งในชีวิตจริงและโลกดิจิทัล โดยสำนักเทรนด์ NellyRodi ได้ระบุสีนี้ไว้ว่าคือสีแห่งพลังของการปลดปล่อยอย่างแท้จริง ช่วงปีหลังมานี้ผู้คนก็ต่างหันมานำเสนอหรือพรีเซนต์สินค้ารีวิวในโทนของสีนี้กันมากขึ้น

 

ในที่สุดเราก็มาถึงสีสุดท้ายกันแล้วนั้นก็คือ สีน้ำตาลเข้มเป็นตัวแทนแห่งวัฏจักร และวงจรธรรมชาติบนวัฒนธรรมร่วมสมัย สีน้ำตาลเข้มนี้ที่เสมือนเปลือกไม้ ดินและธรรมชาติ ซึ่งมักจะเห็นได้จากนักออกแบบในยุคที่เน้นการใช้งานของเฉดสีที่ร่วมกันกับวัตถุจริงที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วยล่ะครับ




 

ข้อมูลจาก: derma-innovation.com