โลโก้มีความหมายมากกว่าที่คิด (ตอนที่ 1)

โลโก้มีความหมายมากกว่าที่คิด (ตอนที่ 1)


โลโก้คือสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อธุรกิจ เพราะเป็นสิ่งที่จะสามารถทำให้ธุรกิจนั้นมีความสมบูรณ์มากขึ้น เป็นที่จดจำต่อการกลุ่มลูกค้ารวมไปถึงการทำการค้าต่างๆ และความหมายของโลโก้นั้นก็มีความสำคัญเช่นกัน บางหน่วยงานได้ให้ความหมายของโลโก้นั้นสอดคล้องกับอัตลักษณ์ของบริษัท เพื่อให้เกิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากที่สุด เราในฐานะผู้บริโภคอาจไม่ทันได้สังเกตว่าหลายๆ ธุรกิจยักษ์ใหญ่นั้นได้ให้ความสำคัญกับความหมายของโลโก้ และมีการปรับเปลี่ยนรูปทรง (เล็กน้อย) บ้างตามรูปแบบ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่มากที่สุดอีกด้วยนั่นเอง 

เพราะโลโก้ก็เปรียบเสมือนกับหน้าตาของแบรนด์ ดังนั้นผู้บริโภคหลายท่านอาจมีการตัดสินบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจด้วยการเห็นโลโก้เพียงครั้งแรกก็เป็นได้ อีกทั้งโลโก้นี้เองที่บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ รวมไปถึงสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อความหมายต่างๆ ออกมา เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคนั้นเข้าใจในตัวตนของแบรนด์มากที่สุดอีกด้วย สำหรับบทความตอนนี้จะพามาพบกับความหมายและสัญลักษณ์โลโก้ของธุรกิจที่จะทำให้เราทราบถึงความหมายของแต่ละแบรนด์ เพื่อให้เรานั้นสามารถเข้าใจและเข้าถึงสิ่งที่แบรนด์ตั้งออกสื่อออกมาทั้งในทางรูปแบบของสินค้าและบริการ และมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

โลโก้ของ FedEx

โลโก้ที่ต้องการแสดงให้ลูกค้าได้เห็นว่าพวกเขานั้นเร็ว โดยชื่อบริษัท Fed นั้นมาจากคำว่า Federal และ Ex มาจาก Express และเมื่อสมัยก่อนนั้นได้มีการใช้ชื่อเต็ม แต่ต่อมาได้มีการใช้เพียงคำว่า FedEx และเกิดเป็นข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือว่าเมื่อตัว E และ x อยู่ติดกันจะอยู่ช่องว่างระหว่างตัวอักษรเป็นรูปลูกศร ซึ่งบริษัท FedEx ได้ใช้เป็นโลโก้ใหม่และได้มีการปรับสีในคำว่า Ex ให้จางลงเพื่อจะให้เห็นสัญลักษณ์ลูกศร ที่หมายถึงความรวดเร็วและช่ำชองของบริษัทนั่นเอง


โลโก้ของ McDonald’s

หลายคนได้เห็นโลโก้ของแมคโดนัลที่เป็นรูปตัว M ที่มีลักษณะโค้งและยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า Golden Arches แต่แท้จริงแล้วสัญลักษณ์นี้หมายถึงเต้านมแม่ ซึ่งในปี 1960s Louis Cheskin ได้กล่าวไว้ว่า โลโก้นี้จะทำให้ผู้บริโภคได้รู้สึกถึงคุณประโยชน์ของอาหารจากทางร้านเมื่อเวลาที่รู้สึกหิวนั่นเอง


โลโก้ของ Museum of London

พิพิธภัณฑ์ของลอนดอนที่ได้มีการบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในกรุงลอนดอน โดยการออกแบบของโลโก้นี้จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ของลอนดอน เป็นการแสดงให้เห็นได้จากการมองครั้งแรกว่าสถานที่แห่งนี้ต้องการสื่อสารสิ่งใดไปยังผู้ที่พบเห็น


โลโก้ของ Adidas

Adidas เป็นการผสมชื่อของผู้ก่อตั้งบริษัท โดยนำมาจากชื่อหน้าและชื่อท้าย Adof Dassler เป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา และโดดเด่นในเรื่องของรองเท้า สำหรับการตลาดของอะดิดาสในช่วงแรกนั้นจะเป็นแบบ “the brand with the three stripes” ผลิตภัณฑ์ที่ติดแถบ 3 แถบ จนแทบจะกลายเป็นคำขวัญของบริษัท และต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโลโก้โดยยังคงสามแถบไว้ แต่เป็นในลักษณะของการไต่ระดับคล้ายกับสามเหลี่ยม หากมองอีกมุมจะมีความคล้ายกับรูปภูเขาอีกด้วย ซึ่งเป็นการอุปมาที่หมายถึงเป้าหมายที่เราต้องพุ่งเข้าชน


โลโก้ของ Mistsubushi

บริษัทมิตซูบิชิก่อตั้งในปี 1800 เป็นการรวมตัวของสองกลุ่มจนเกิดเป็นบริษัทเดียวกัน ซึ่งโลโก้นี้นั้นมาจากตราประจำตระกูล ตัวสามแแกมาจากกลุ่ม Tosa และครอบครัว Iwasaki แฉกเปรียบเสมือนเพชรที่เอาหัวมาติดต่อกัน เพชรสามเม็ดนี้มีความหมายเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ และความสำเร็จ และการเลือกใช้สีแดงที่สื่อความหมายถึงความกล้าหาญและการดึงดูดลูกค้า

ยังมีอีก 5 โลโก้ที่จะพามาให้ทุกท่านได้รู้จัก เกี่ยวกับความหมายอันแท้จริง และสิ่งที่แบรนด์ต่างๆ นั้นต้องการนำเสนอ เพราะในบางครั้งสิ่งที่เราคิดและตีความหมาย อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ทางแบรนด์ต้องการนำเสนอให้ผู้บริโภคก็ได้เช่นกัน โปรดติดตามต่อที่บทความหน้า

 

 

 

 

ที่มา : pantip