เทคนิคการออกแบบหน้าเว็บไซต์ เพื่อกำหนดรูปแบบการแสดงผล
การออกแบบเว็บไซต์ ให้มีรูปแบบการแสดงผลที่เหมาะสมกับอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน
เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์แบบตอบสนอง (Responsive Web Design)
1. ใช้ Media Queries Media Queries เป็นเครื่องมือ CSS ที่ช่วยกำหนดรูปแบบการแสดงผล Media Queries คือเครื่องมือ CSS ที่ใช้ตรวจสอบคุณสมบัติของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ โดยจะช่วยให้กำหนดรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่างๆ
ตัวอย่างการใช้งาน Media Queries
-ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นบนหน้าจอขนาดเล็ก
-ซ่อนเมนูแบบดึงลงบนหน้าจอขนาดเล็ก
-เปลี่ยนเค้าโครงของเว็บไซต์จากแบบหลายคอลัมน์เป็นแบบคอลัมน์เดียวบนหน้าจอขนาดเล็ก
-ใช้รูปภาพที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดหน้าจอ
Media Queries ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก
-Media Type ระบุประเภทของอุปกรณ์ เช่น screen, print, handheld
-Media Feature ระบุคุณสมบัติของอุปกรณ์ เช่น width, height, orientation
-Media Value ระบุค่าของ Media Feature เช่น 480px, portrait
2. ใช้ Flexbox หรือ Grid Layout เป็น CSS layouts ที่ช่วยจัดเค้าโครงเนื้อหาเว็บไซต์ให้ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อขนาดหน้าจอที่หลากหลาย Flexbox เหมาะสำหรับการจัดเรียงองค์ประกอบแบบเรียงแถวหรือเรียงคอลัมน์ เหมาะกับการออกแบบเมนู แถบเครื่องมือ หรือการจัดเรียงเนื้อหาให้มีความยืดหยุ่น
ตัวอย่างการใช้งาน Flexbox
-จัดเรียงไอเท็มในแถวหรือคอลัมน์
-กำหนดความกว้างและความสูงของไอเท็มแบบยืดหยุ่น
-จัดเรียงไอเท็มให้เว้นระยะห่างเท่ากัน
-ทำให้อไอเท็มเรียงต่อกันเมื่อหน้าจอมีขนาดเล็กลง
Grid Layout เหมาะสำหรับการจัดเรียงองค์ประกอบแบบตาราง เหมาะกับการออกแบบแกลเลอรี่ รูปภาพ หรือการจัดเรียงเนื้อหาให้มีความซับซ้อน
ตัวอย่างการใช้งาน Grid Layout
-จัดเรียงไอเท็มแบบตาราง
-กำหนดความกว้างและความสูงของไอเท็มแต่ละช่อง
-กำหนดจำนวนคอลัมน์และแถว
-จับคู่ไอเท็มให้ครอบคลุมหลายช่อง
-ทำให้อไอเท็มเรียงต่อกันเมื่อหน้าจอมีขนาดเล็กลง
ข้อดีของ Flexbox และ Grid Layout
ความยืดหยุ่น สามารถจัดเรียงองค์ประกอบต่างๆ บนเว็บเพจได้อย่างอิสระ
การตอบสนอง เนื้อหาจะปรับขนาดให้เหมาะกับขนาดหน้าจอต่างๆ โดยอัตโนมัติ
ความง่ายต่อการใช้งาน Flexbox และ Grid Layout ใช้งานง่ายโดยใช้ CSS
การเข้าถึงได้ Flexbox และ Grid Layout ช่วยให้เว็บไซต์เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ
การใช้ Flexbox หรือ Grid Layout ช่วยให้ออกแบบและสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ
3. ใช้ภาพที่รองรับ Responsive Images ช่วยให้รูปภาพ ปรับขนาดให้เหมาะกับขนาดหน้าจอ สามารถใช้ <picture> tag หรือ JavaScript library หรือศึกษา เพิ่มเติมได้
4. หลีกเลี่ยงการใช้ Flash ไม่รองรับบนอุปกรณ์มือถือ ควรใช้ HTML5, CSS และ JavaScript แทน
5. ทดสอบบนอุปกรณ์จริง สิ่งสำคัญคือต้องทดสอบเว็บไซต์บนอุปกรณ์จริงเพื่อดูว่าแสดงผลอย่างไร และต้องแก้ไขหรือปรับแก้อย่างไร และต้องทดสอบกับหน้าจอหลายๆ ขนาด
เทคนิคเพิ่มเติมใน การออกแบบเว็บ
-ใช้ตัวอักษรที่อ่านง่าย เลือกตัวอักษรที่อ่านง่ายบนหน้าจอทุกขนาด
-เว้นระยะห่างที่เพียงพอ ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของเว็บไซต์
-ใช้สีที่ตัดกัน เลือกสีที่ตัดกันเพื่อให้เนื้อหาอ่านง่าย และเน้นเนื้อหาที่สำคัญๆ
-ปุ่มใหญ่ ควรมีขนาดใหญ่พอที่จะกดบนหน้าจอสัมผัสได้อย่างง่ายดาย และไม่โดนส่วนอื่น
-เมนูแบบเรียบง่าย ควรเรียบง่ายและใช้งานง่าย
สรุป
การออกแบบเว็บไซต์ให้มีรูปแบบการแสดงผลที่เหมาะสมกับอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่างๆ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น และสามารถสร้างความประทับใจ สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ เพิ่มคะแนน SEO ส่งผลให้อันดับเว็บไซต์ดีขึ้นด้วย
---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—
ข้อมูลจาก: นักเขียนนิรนาม