เทคโนโลยี ที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในโลกอนาคต

เทคโนโลยี ที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุ ในโลกอนาคต

เราทุกคนคงทราบกันดีแล้วว่า สังคมไทยเข้าสู่ยุคผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2564 แล้วครับ กล่าวคือ มีประชากรที่อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 20% และที่สำคัญ ประเทศไทยเตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอดในปี 2574 ซึ่งมีประชากร 60 ปีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 28 % 

 

เหตุผลก็เนื่องมาจากอัตราการเกิดของประชากรไทยมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2546 ซึ่งพบว่ามีจำนวนประชากรเด็กเกิดใหม่เพียง 544,570 ซึ่งลดลงจากปี 2563 มากถึง 42,798 คน ซึ่งหมายความได้ว่าประเทศไทยนั้นมีเด็กที่เกิดใหม่ไม่ถึง 600,000 คนมา 2ปีติดแล้วครับ

 

ในปัจจุบันไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การดำเนินธุรกิจ หรือเรื่องราวต่างๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นบทความนี้ เราจึงได้นำเรื่องของ “เทคโนโลยี ที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุ” มาฝากกันเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุ หรืออ่านบทความนี้ ในการนำไปรับใช้ในการดูแลคนรอบข้างที่เป็นผู้สูงอายุครับ

 

5 เทคโนโลยีที่จะช่วยเหลือผู้สูงอายุ

 

1. แอปพลิเคชันสำหรับดูแลผู้สูงอายุ เราจะเห็นได้ว่าผู้สูงอายุหลายๆ คนยังคงแข็งแรงและสามารถดูแลตัวเองได้ แต่ต้องเข้าใจว่าร่างกายนั้นไม่แข็งแรงเหมือนตอนวัยยังหนุ่มสาว เพราะร่างกายนั้นโรยราลงทุกวัน เพราะอุบัติเหตุมักจะเกิดได้เสมอ ฉะนั้น คงจะดีไม่น้อยถ้าหากมีแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ เช่น แอปฯ ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใกล้ตัวผู้สูงอายุเพื่อตรวจจับหากเกิดอุบัติเหตุ 

 

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผู้ติดต่อที่ระบุไว้ หากมีคนตอบรับก็สื่อสารกันได้ทันทีไม่ต้องกระเสือกกระสนกดปุ่มอะไรอีก หรือแอปฯ สำหรับติดตามตัวผู้สูงอายุ กรณีผู้สูงอายุที่มีอาการหลงๆ ลืมๆ แล้วหายออกจากบ้านไปนั่นเองครับ

 

2.เทคโนโลยีช่วยเหลือด้านการเคลื่อนไหว ขึ้นชื่อว่าผู้สูงอายุ การเคลื่อนไหวนั้น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัญหาหลักๆ ที่มักพบได้โดยทั่วไปในผู้สูงอายุ ก็เพราะสุขภาพร่างกายและสมรรถภาพต่างๆ ค่อยๆ เสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้นในทุกวัน ไม่สามารถเดินไกลได้ ยืนได้ไม่นาน หลงลืม และมักจะปวดเมื่อยตามร่างกาย

 

ถ้าหากว่า มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นและน้อยลง ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและอาการบาดเจ็บลงได้อย่างพวกหุ่นยนต์ที่ช่วยในการหยิบจับยกสิ่งของ อุปกรณ์ช่วยในการเดิน เก้าอี้ไฟฟ้าขึ้นลงบันได หรือปรับยืน และอุปกรณ์ช่วยออกกำลังกายเป็นต้นครับ

 

3. เทคโนโลยีหุ่นยนต์ผู้ช่วย หุ่นยนต์ผู้ช่วยนี้เป็นอุปกรณ์เปรียบเสมือนเลขาส่วนที่ค่อยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ได้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น คอยออกคำสั่งอย่างเดียว ส่วนหุ่นยนต์นั้นก็เปรียบเสมือนตัวแทนที่คอยทำงานให้ สามารถช่วยเตือนเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กินยา กินข้าว ให้ตรงเวลาประมวลผลเมนูอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้อ

 

ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงฟังก์ชัน ในการสร้างความบันเทิง เพื่อคลายเหงา ในกรณีที่ผู้สูงอายุ อยู่คนเดียวในช่วงเวลากลางวัน หรือจะสนทนากันได้ ชวนคุย ซึ่งตรงนี้อาจจะช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้

 

4. เทคโนโลยี Virtual Service เทคโนโลยี Virtual Service ที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในเรื่องของการสื่อสารเป็นสำคัญ ตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัด คือการ Virtual Care หรือการพบแพทย์ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลอีกต่อไป 

 

แค่เพียงมีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตเท่านั้น สามารถได้รับการบริการ ดูแลรักษาเสมือนผ่านทางออนไลน์ สามารถคัดกรองอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยว่าจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลด้วยตนเองหรือไม่ หรือจะใช้บริการโลกเสมือน Metaverse เพื่อคลายเหงาก็ได้เช่นกันครับ


 

5.เทคโนโลยีอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ไม่อาจปฏิเสธไปได้เลยว่าเรื่องของอาหารก็เป็นส่วนที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะผู้สูงอายุก็มีปัญหาไม่น้อยไปกว่าด้านอื่นๆ อย่างเช่น การเคี้ยว การกลืน ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ภาวะทุพโภชนาการ เป็นต้น

 

ซึ่งอาหารเหล่านี้อาจต้องพึ่งเทคโนโลยีด้านอาหารเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิต ที่เริ่มมีให้เห็นแล้วในเวลานี้ ได้แก่ เยลลี่สำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาการกลืน มีสารสกัดจากใบแปะก๊วย สารอาหารครบ 5 หมู่ และสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในทุกระบบ ลักษณะจะเป็นเยลลี่เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว เคี้ยวง่ายกลืนง่าย ไม่ทำให้สำลัก เพียงแค่ใช้ลิ้นดุนๆ ให้แตก ซึ่งเหมาะกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ประสบปัญหาในการกินอาหาร

 

หวังว่าบทความจะเป็นประโยชน์และเป็นแนวคิดในการพัฒนาเทคโนโลยีในยุคผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ เพื่อความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิต ความปลอดภัยของผู้สูงอายุที่ดีขึ้น ช่วยคลายความกังวลให้กับผู้สูงอายุ และลูกหลานได้มากเลยทีเดียว

 

ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยียังไม่เป็นที่ทั่วถึงมากมายเท่าไหร่นัก ยังมีการจ้างผู้ช่วยเพื่อดูแลผู้สูงอายุอยู่มากมายหรือแม้กระทั่งถูกลูกหลานปล่อยไม่สนใจก็มีครับ

 

หวังว่าในอนาคตจะมีนักประดิษฐ์ชาวไทยที่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อตอบสนอง ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัย โดยคนไทยครับ (ถ้าคิดได้และตอบโจทย์ได้ก่อนคุณอาจจะเป็นนักธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จอีกคนก็ได้ครับ)









 

ข้อมูลจาก sanook.com