Top 10 การออกแบบกราฟิกปี 2023 ที่ทันสมัย

Top 10 การออกแบบกราฟิกปี 2023 ที่ทันสมัย

ในทุกๆ ปี เทรนด์การออกแบบกราฟิกจะแสดงให้เราเห็นว่าศิลปะสามารถเลียนแบบชีวิตได้อย่างไร ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้สามารถสะท้อนของความต้องการและมุมมองที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในสังคม

 

โดยในปี 2023 เราจะสังเกตเห็นได้ว่านักออกแบบกราฟิกเปลี่ยนจากการออกแบบสไตล์มินิมอลและสีโมโนโครม ไปสู่สไตล์การออกแบบที่โดดเด่นและหลากหลาย

 

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้เกิดเทรนด์บนโซเชียลเกี่ยวกับ Y2K ไปจนถึงพื้นผิวที่สัมผัสได้ ภาพประกอบที่ทำด้วยมือ และองค์ประกอบที่ทำให้เคลิบเคลิ้มเหลือเชื่อ 

 

ดังนั้นในปี 2023 จึงเป็นเรื่องของการหลุดพ้น การปรับโครงสร้างมุมมอง และนำเสรีภาพผ่านความคิดสร้างสรรค์

 

ทำไมเทรนด์การออกแบบจึงมีความสำคัญ?

สำหรับเทรนด์การออกแบบกราฟิกนั้น ช่วยให้เราสร้างโครงสร้างที่สื่อสาร และเชื่อมต่อกับผู้ชมได้อย่างทันท่วงที ซึ่งการติดตามและทำความเข้าใจแนวโน้มนั้น หมายความว่าเรากำลังสื่อสารกับผู้ชมของเราว่ามีส่วนร่วมกับความสนใจของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

 

เช่นเดียวกับนักเขียนและนักเคลื่อนไหว ซึ่งโทนี เคด บัมบารา ได้กล่าวไว้ว่า : "บทบาทของศิลปินคือ การสร้างการปฏิวัติที่ยากจะต้านทาน"และหากจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ "เทรนด์การออกแบบกราฟิกไม่ได้เป็นเพียงสัญญาณของยุคสมัยเท่านั้น แต่บางครั้งก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย!"

 

Top 10 การออกแบบกราฟิกปี 2023 ที่ทันสมัย มีดังนี้

1. Y2K here to stay

นี่อาจเป็นหนึ่งในเทรนด์การออกแบบกราฟิกอันดับต้นๆ ที่เราจะได้เห็นในปีนี้ ซึ่งขบวนการความคิดถึงวัยรุ่น Y2K มาถึงแล้ว โดยกฎการออกแบบนั้นหลวมพอๆ กับยีนส์ และจัดจ้านพอๆ กับลิปกลอส

 

สำหรับแนวโน้มนี้มีข้อจำกัดเพียงเล็กน้อย โดดเด่นด้วยสีชมพูฟองดอง การออกแบบโฮโลแกรม ภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในโลกไซเบอร์ และพื้นผิวโลหะแวววาว ซึ่งสุนทรียศาสตร์ของ Y2K มีอิสระในการแสดงออกเหมือนเด็ก

 

ดังนั้นในปี 2023 กำลังเปิดรับการออกแบบดิจิทัลในยุคสร้างสรรค์ที่แท้จริงเป็นครั้งแรก "ด้วยความคิดถึงวัยเด็ก" ฉะนั้นการเล่นกับความคิดถึงสามารถฝังรากแบรนด์ หรือการออกแบบของคุณในความรู้สึกของประวัติศาสตร์ได้

แหล่งที่มา : Gabinere Exquisito and Andres Requena on Behance

 

2. Maximalism

Minimalism ครองโลกแห่งการออกแบบมานานหลายปี แต่เมื่อเร็วๆ นี้ โลกของการออกแบบกราฟิกได้เปลี่ยนไปสู่ความสูงสุดเพื่อหลีกหนีจากกิจวัตร และข้อจำกัดที่ไม่น่าสนใจ ฉะนั้นเราจะเห็นตัวอักษรที่โดดเด่น สะดุดตา การผสมสีที่รุนแรง และองค์ประกอบภาพที่ล้นหลาม ดังนั้นด้วยการออกแบบที่เปลี่ยนไป ทำให้การได้สัมผัสด้วยสายตาในปี 2023 ยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก

แหล่งที่มา : Marsonearthdesigns.com

 

3. Experimental fonts

งานออกแบบบางอย่างก้าวข้ามอุปสรรคด้านภาษา โดยเน้นที่การสื่อสารด้วยภาพ ฟอนต์ Sans serifโลกีย์กำลังเป็นที่นิยมในปี 2023 และฟอนต์จะสื่อสารผ่านรูปร่างและสีมากกว่าคำพูด

 

แบบอักษรดิสเพลย์และแบบอักษรเซอริฟ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในขณะที่เราทดสอบว่าสามารถผลักดันขอบเขตความสามารถในการอ่านได้ไกลแค่ไหน ในขณะที่ยังคงความชัดเจนไว้ ฟอนต์ที่แสดงอาจแตกต่างกันมาก แต่เราคาดการณ์ว่าฟอนต์ที่มีรูปทรงออร์แกนิกนุ่มๆ จะเพิ่มขึ้น รวมถึงฟอนต์สไตล์กราฟิกที่ขี้เล่น

ออกแบบโดย : andresrequena.es

 

4. A handmade touch

ภาพประกอบที่ทำด้วยมือ เป็นเทรนด์การออกแบบกราฟิกที่สำคัญในปี 2023 สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสัมผัสของมนุษย์ให้กับโปรเจกต์ของตน โดยเทรนด์นี้เกี่ยวกับการเชื่อมต่อโยงผู้คนอีกครั้ง ด้วยการดึงดูดใจภาพที่วาดด้วยมือ

Made with Looka

 

5. Getting gothic

ขอบคุณ Wednesday Adams สำหรับความคลั่งไคล้ชาวโกธิคล่าสุดที่เป็นจุดศูนย์กลางบนแพลตฟอร์มเช่น Tik Tok เทรนด์ #gothgirl มียอดวิว 4.6 พันล้านครั้ง

 

โดยทั้งหมดนี้เรียกว่าเป็นการคืนชีพของชาวโกธิค ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์การออกแบบกราฟิกล่าสุดที่จะเข้ามาในปี 2023 และหากมองอีกนัยหนึ่งการออกแบบแนวโกธิคและกรันจ์ จะมาเป็นพลังต่อต้านความน่ารักความสดใสของยุค Y2K ที่เราเห็นในโลกของการออกแบบในปัจจุบันนี้

แหล่งที่มา : Camichavarria.com

 

6. Vintage minimalism

ความหมายของเทรนด์วินเทจในปีนี้คือ วินเทจเรียบง่ายที่มีสีพาสเทลหม่นๆ โดยนักออกแบบกำลังเพิ่มลูกเล่นโดยการนำองค์ประกอบส่วนใหญ่ออก และคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย เช่น ให้ลองนึกถึงภาพสีสดใสในยุค 70 ที่ไม่มีผ้าทวีตและดอกไม้ดูครับ

แหล่งที่มา : pineapplecollaborative.com

 

7. Blurs and gradients

แม้ว่าการไล่ระดับสีจะได้รับความนิยมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งนักออกแบบกราฟิกก็เริ่มทดลองใช้มากขึ้น โดยการไล่ระดับสีแบบสมัยใหม่และการไล่ระดับสีที่ชวนเคลิบเคลิ้มนั้นมีส่วนเท่าๆ กัน เช่น การสร้างเอฟเฟกต์ควันที่นุ่มนวลซึ่งค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีหนึ่งไปยังอีกสีหนึ่ง

 

ซึ่งการไล่ระดับสีจะเพิ่มจุดสนใจให้กับงานออกแบบของคุณ และปรับปรุงลักษณะที่ปรากฏของข้อความที่วางซ้อน นับว่าเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรวมสีสดใสต่างๆ เข้าด้วยกันในแบบที่ไม่มากจนเกินไป

By Hana Perak on Behance

 

8. Touch and feel

ผู้คนต่างใช้สี รูปร่าง และคำพูดเพื่อสื่อสารและสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบกราฟิก แต่ในปี 2023 เรากำลังเพิ่มพื้นผิวในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น หมากฝรั่ง แก้วกระดาษเนื้อหยาบ และผ้าไหมที่ลื่นไหล เพื่อรวมความรู้สึกทางกายภาพในการออกแบบ 

Schweppes Premium Drinks on Behance

 

9. Down to earth

ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเริ่มสร้างอะไรสักอย่างที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ผู้คนจะตระหนักเสมอ ฉะนั้นเมื่อมีการพูดถึงความยั่งยืนมากขึ้น นักออกแบบจึงต่างยอมรับความตระหนักด้านสภาพอากาศ และผสมผสานการออกแบบของพวกเขาด้วยองค์ประกอบจากธรรมชาติพื้นผิว และสีที่เป็นสีเอิร์ธโทน

 

โดยนักออกแบบนั้นต้องการถ่ายทอดความรู้สึกของธรรมชาติผ่านการออกแบบของพวกเขา ซึ่งตามหลักการแล้วเทรนด์นี้เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ การออกแบบเว็บไซต์ และการบรรจุภัณฑ์อาหาร หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

Designed by Katiforner.com

 

10. Sci-fi psychedelia

ในขณะที่นักออกแบบบางคนได้รับแรงบันดาลใจจากโลกของเรา แต่ยังมีอีกหลายคนที่กำลังสนใจและได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ไม่รู้จักอีกมากมายที่อยู่นอกโลก ฉะนั้นด้วยความสนใจในการเดินทางในอวกาศที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นักออกแบบจึงโอบรับมันด้วยรูปทรงที่ไม่มีตัวตนและองค์ประกอบนอกโลก

 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเทรนด์การออกแบบนี้จะไม่เหมาะกับทุกอุตสาหกรรม แต่สำหรับโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายการรับรู้ของเราเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นไปได้ 

โดย Livre Luar on Behance


 

หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ






 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : looka.com