มนุษย์เสมือนจริงกำลังมาแรง จริงหรือไม่?

มนุษย์เสมือนจริงกำลังมาแรง จริงหรือไม่?

หลังจากในปีที่ผ่านมาได้มีนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เกิดขึ้น และกำลังทดลองพัฒนาอยู่อย่างมากมาย เช่นเดียวกับในจีนที่ มนุษย์เสมือนจริงกำลังมาแรง ทำให้ธุรกิจการให้บริการมนุษย์เสมือนจริง เพื่อจ้างเป็น พิธีกร, พนักงาน และหนุ่มสาวแฟชั่นเสมือนจริง เติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะมาแทนพนักงานและพิธีกรที่เป็นคนจริงๆ 

 

โดยล่าสุดได้มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้สปอนเซอร์โฆษณาจะเข้ามาว่าจ้างกว่า 45% ดังนั้นคาดว่า lnfluencer ที่เป็น Celebrities คนดัง ดารา นักร้อง จะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ดังนั้นต้องสร้างความแตกต่าง เพื่อให้ดีกว่าหุ่นยนต์เหล่านั้นให้ได้!!

 

และก่อนหน้านี้จีนเคยประกาศเอาไว้ว่า “จะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีของโลก

 

สำนักข่าว CNBC ได้รายงานว่า Baidu (ไป่ตู้) ซึ่งเป็นบริษัทเทคคอมปานียักษ์ใหญ่ของจีนเปิดเผยรายละเอียดคนเสมือนจริงว่า ได้ส่งคนเสมือนจริงไปทำงานให้กับลูกค้าในปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากปี 2021 และมีค่าจ้างที่แตกต่างกันไป

 

สำหรับค่าจ้างนั้นมีตั้งแต่ราคา 2,800 ดอลลาร์ (98,000 บาท) ต่อปี ไปจนถึงราคา 14,300 ดอลลาร์ (500,500 บาท) ต่อปี

 

จากการสำรวจบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในจีน ต่างก็พากันพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมากมายในอุตสาหกรรมมนุษย์เสมือนจริงที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนั่นเอง

 

Virtual People มนุษย์เสมือนจริงถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร 

Virtual People มนุษย์เสมือนจริงถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี animation เทคนิคการสร้างภาพพิเศษด้วยคอมพิวเตอร์ กับ sound tech เทคโนโลยีเสียงและ machine learning การเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Ai (ปัญญาประดิษฐ์) 

 

จากนั้นจะมีการผสมผสานขึ้นมาเป็นมนุษย์เสมือนจริงในรูปแบบหน้าตาต่างๆ ที่เหมือนคน ซึ่งมีความสามารถในการร้องเพลง อ่านข่าว, พูดจากตอบโต้กับคู่สนทนาที่เป็นคนได้, ในรูปแบบการ์ตูน และกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั่นเอง

 

เรามาดูความเห็นของบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเสมือนจริง

1. คุณหลี่ ซี่หยวน ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายธุรกิจมนุษย์เสมือนจริง และหุ่นยนต์ของไป่ตู่ กล่าวว่า… ภาพรวมของอุตสาหกรรมมนุษย์เสมือนจริงในจีนจะเติบโตปีละ 50% ไปจนถึงปี 2025 และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ราคาของมนุษย์เสมือนจริงลดลงมากถึง 80% จากปีที่แล้ว สำหรับลูกค้าที่นิยมซื้อคนเสมือนจริง ได้แก่ บริษัทการเงิน ธุรกิจท่องเที่ยว และสื่อภาครัฐ

 

2. คุณไซเรียส หวัง ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และหัวหน้าฝ่ายการตลาดเกรทเตอร์ไชน่า ของ Kantar ได้ให้ความเห็นว่า... แบรนด์สินค้าในจีนกำลังมองหา "โฆษกทางเลือก" เนื่องจากเหล่าคนดัง celebrity ต่างมีเรื่องอื้อฉาวในทางลบอย่างมากมาย เช่น การหลบเลี่ยงภาษี หรือเรื่องอื้อฉาวส่วนตัว (แน่นอนว่าส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์และภาพลักษณ์อย่างแน่นอนหากจ้างมา)

 

จากผลสำรวจของ Kantar (กันตาร์) เปิดเผยว่าผู้บริโภคอย่างน้อย 36% เคยรับชมการแสดงของ virtual influencer หรือ digital celebrity มาแล้ว และอีก 21% เคยดูคนเสมือนจริงเป็นพิธีกรในงานอีเวนต์ต่างๆ และการอ่านข่าวตามสื่อ

 

ดังนั้น Kantar รายงานว่าในปี 2023 สปอนเซอร์โฆษณาราว 45% อาจหันไปสปอนเซอร์การแสดงของ virtual influencer หรือเชิญ virtual person คนเสมือนจริงไปร่วมงานอีเวนต์ของแบรนด์นั่นเอง

 

3. Bilibili (บีลีบีลี) ซึ่งเป็นแอปวิดีโอและเกมชื่อดังของจีนนั้น เป็นบริษัทแรกๆ ที่นำแนวคิด “คนเสมือนจริง” มาใช้ในวิดีโอและเกม และบีลีบีลีได้เปิดเผยว่า... บริษัทมีพิธีกรเสมือนจริงในสังกัดกว่า 230,000 คน นับตั้งแต่ก่อตั้งแพลตฟอร์มขึ้นมาในปี 2029 และเวลาออกอากาศของพิธีกรเสมือนจริงในปี 2022 ก็เพิ่มขึ้นถึง 200% จากปีที่แล้ว

 

นับว่าเทคโนโลยีมนุษย์เสมือนจริงนั้นมาแรงจริงๆ และอาจจะมาแย่งงานของคนจริงๆ ได้ (เมื่อใดที่ผู้คนในสังคมยอมรับและคุ้นเคยกับหุ่นยนต์เหล่านี้ ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น) และที่สำคัญยังมีความสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

 

ดังนั้นมนุษย์ต้องสร้างความแตกต่างให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์คิดค้นไอเดียในการทำงานให้มีความโดดเด่น น่ารับชม น่าเชื่อถือ กว่าหุ่นยนต์ให้ได้!! หากไม่พัฒนาตนเองแน่นอนว่าหุ่นยนต์พร้อมเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของคุณ!



 

 

 

 

 

 

 

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : thairath.co.th