เพราะเราคือ “เว็บดีไซน์” ออกแบบเว็บไซต์ให้สวยอย่างเดียวคงไม่พอ
เว็บดีไซน์ หรือ นักออกแบบเว็บไซต์ ไม่เพียงแต่ต้องทำหน้าที่ออกแบบเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคิดถึงการใช้งานของ User ที่มีความหลากหลายตั้งแต่เด็กที่เริ่มหัดใช้อินเทอร์เน็ตหรือคนแก่ที่ไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีใดๆ เลยก็ต้องสามารถใช้งานเว็บไซต์ที่ได้ออกแบบเอาไว้อย่างไม่ยากเย็น และความจริงของนักออกแบบเว็บไซต์นี้เองเป็นสายงานที่ต้องร่วมทำงานกับผู้อื่น และรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลย
นักออกแบบเว็บไซต์ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้
จากเหตุผลข้างต้นนั่นก็คือ เพราะว่าเว็บไซต์นั้นไม่ใช่แค่การออกแบบให้สวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีระบบต่างๆ ที่เว็บไซต์ต้องการอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เว็บขายของต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีระบบซื้อขายซึ่งเราสามารถออกแบบหน้าตาของปุ่มหรือการจัดวางสินค้าได้ แต่เราไม่สามารถที่จะออกแบบระบบการสั่งซื้อหรือระบบอื่นๆ ได้ ดังนั้นโปรแกรมเมอร์คือ สิ่งที่ต้องทำงานควบคู่กับนักออกแบบเว็บไซต์ ทั้งสองหน้าที่นี้ต้องมีการศึกษาซึ่งกันและกันว่าขอบเขตการทำงาน ขอบเขตการทำระบบนั้นสามารถสัมพันธ์และมีความซับซ้อนต่อกันได้มากแค่ไหน อย่าคิดว่าใครใหญ่หรือสำคัญกว่าแต่ต้องช่วยกันและทำควบคู่กันจนจบโปรเจคนั้นๆ
การออกแบบสวยงามแค่ไหนก็ต้องสามารถใช้งานได้
เพราะถึงแม้จะออกแบบสวยแค่ไหน ถ้าหากใช้งานแล้วงง คนใช้งานยาก ไม่เข้าใจ ก็จบได้เช่นกัน สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยนั้นอาจไม่ใช่เรื่องยากเท่ากับการออกแบบให้คนใช้งานรู้สึกว่าเว็บนี้นอกจากจะสวยงามแล้วยังสามารถใช้งานได้ง่าย หรือไม่ยากและซับซ้อนจนเกินไป ต้องการทำอะไร หรือค้นหาอะไรก็สามารถค้นเจอได้โดยง่าย โดยหน้าที่ของเว็บดีไซน์นั่นก็คือ ทำอย่างไรก้ได้ให้ผู้ใช้งานไม่ปิดออกไปตั้งแต่เข้ามาในครั้งแรก เนื่องจากหาข้อมูลที่ต้องการไม่พบ เพราะว่า User ทุกคนที่เข้าเว็บไซตืนั้นมีจุดประสงค์ทุกคน ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานที่เข้า Google ต่างก็มีจุดประสงค์คือการค้นหาข้อมูล หรือผู้ใช้งานที่เข้า youtube จุดประสงค์ก็เพื่อค้นหาเพลงที่ต้องการชมและต้องการฟัง ดังนั้นเว็บดีไซน์จึงต้องนำจุดประสงค์เหล่านั้นออกมาทำและตีโจทย์เพื่อให้ผู้ใช้งานใช้ได้ง่ายขึ้น
นักออกแบบเว็บไซต์ต้องมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปงานออกแบบชนิดอื่นๆ ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงไม่รวดเร็วเท่ากับการออกแบบเว็บไซตื หากย้อนกลับไป 10 ปีก่อน การออกแบบเว็บไซต์และการใช้ลูกเล่นของ Flash Player อาจดูเจ๋งและสุดยอดมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนมาถึงปัจจุบัน ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปหมด รวมไปถึง Flash Player ได้หายออกไปจากระบบการทำเว็บไซต์ และถูก HTML CSS และอื่นๆ เข้ามาแทนที่ ส่งผลให้การแสดงผลของเว็บไซต์แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก ไม่พออีกต่อไป เว็บไซต์ในปัจจุบันนั้นต้องสามารถรองรับการเข้าถึงด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อีกด้วย เช่น มือถือ แท็ปเล้ต เหล่านี้จึงเป็นที่มาของคำว่า Responsive Web Design เหตุผลทั้งหมดจะทำให้เห็นได้ว่านักออกแบบเว็บไซต์ต้องมีการตื่นตัวและอัพเดตข่าวสารให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
เครื่องมือที่นักออกแบบเว็บไซต์ใช้
โปรแกรมการออกแบบเว็บพื้นฐานคงหนีไม่พ้น Adobe Photoshop , Adobe Illustrator 2 โปรแกรมนี้จะช่วย Support ซึ่งกันและกัน แต่ปัจจุบันนี้ก็มีโปรแกรมอีกมากมายหลายตัวมาให้ใช้สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่นโดยตรงอย่าง Sketch หรือ Webflow เป็นต้น สำหรับโปรแกรมก็อยู่ที่นักออกแบบจะเลือกหรือถนัดใช้แต่ผลลัพธ์ก็คงออกมาใกล้เคียงกันเพราะอย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าออกแบบให้สวยอย่างเดียวคงไม่พอแต่ควรต้องออกแบบให้ใช้งานง่ายด้วย
แล้วถ้าอยากเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ ต้องเริ่มอย่างไรดี
สำหรับอันดับแรกอาจต้องหาข้อมูลโดยรวม เพื่อเป็นการพิสูจน์ความชอบที่แท้จริงของตัวเรา เมื่อเป็นความต้องการที่จะศึกษาและเป็นนักออกแบบเว็บไซต์อย่างจริงจังแล้ว การเข้าใจพื้นฐานของหลักการออกแบบเว็บไซต์ก็อาจจะไม่เพียงพอเท่าการฝึกฝนควบคู่ไปด้วย อีกทั้งมีข้อมูลอีกมากมายที่พร้อมให้เราเข้าไปศึกษาเพียงพิมพ์คำว่า Web Design Principles ข้อมูลที่ต้องการก็มีมากมายนับไม่ถ้วนแล้ว และที่สำคัญที่สุดการฝึกปฏิบัติจะช่วยให้เราเชี่ยวชาญและสามารถเป็นมืออาชีพได้ในอนาคต
ที่มา : grappik