เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร (what is biotechnology)

ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง แน่นอนว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากเท่าไหร่ ก็จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งแรกโดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ด้วยเหตุนี้บทความนี้เราจึงได้หยิบยก เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร (what is biotechnology) มานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งอาจสร้างไอเดียและเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ผู้อ่านได้รู้ได้เข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

1. เทคโนโลยีชีวภาพคืออะไร

เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) คือ “การใช้ระบบและสิ่งมีชีวิตเพื่อพัฒนาหรือสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์” และอื่นๆ เช่น

การประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ระบบชีวภาพ
สิ่งมีชีวิตหรืออนุพันธ์ของสิ่งที่มีชีวิตนั้นๆ

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างหรือปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการสำหรับการใช้งานเฉพาะอย่าง ขึ้นอยู่กับเครื่องมือและการประยุกต์ใช้โดยจะมักคาบเกี่ยวกับสาขาที่เกี่ยวข้อง คือ วิศวกรรมชีวภาพและวิศวกรรมชีวภาพการแพทย์ เป็นต้น

2. ความสำคัญของเทคโนโลยีชีวภาพ

มีการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อแก้ปัญหาในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่โลกกำลังเผชิญอยู่อย่างมากมาย เช่น ด้านอาหาร การแพทย์ เกษตรกรรม และเภสัชกรรมเป็นต้น ตัวอย่างเช่น

การคิดค้นยาเพื่อป้องกันฯ และรักษาโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆ
การผลิตอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น และมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร (ของโลก) ด้วยการปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ใหม่
การลดปริมาณการใช้สารเคมีในเกษตรกรรม
อื่นๆ อีกมากมายที่เทคโนโลยีชีวภาพสามารถเข้าไปช่วยจัดการและแก้ปัญหาได้

ง่ายๆ คือ เทคโนโลยีชีวภาพที่ง่ายที่สุดก็คือ “เทคโนโลยีที่อยู่บนพื้นฐานของชีววิทยา” เทคโนโลยีชีวภาพจะควบคุมกระบวนการระดับเซลล์และชีวโมเลกุลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ที่สามารถช่วยปรับปรุงชีวิตของเราและสุขภาพโลกของเรา ซึ่งเราใช้กระบวนการทางชีวภาพของจุลินทรีย์มานานกว่า 6,000 ปี (ในการผลิต) ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ขนมปังและชีส หรือการรักษาผลิตภัณฑ์จากนมและอื่นๆ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เพื่อต่อสู้กับโรคที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอและหายยาก ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานน้อยลงและทำให้พลังงานสะอาดขึ้น ที่สำคัญยังทำให้กระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมปลอดภัยกว่า สะอาดกว่า และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่าง 3 ตัวอย่างดังต่อไปนี้

1. เป็นมิตรต่อโลก

เช่นเทคโนโลยีชีวภาพถูกปรับปรุงขึ้นมาเพื่อต้านทานแมลงที่มีผลกระทบต่อพืชผล เพิ่มความต้านทานต่อสารกำจัดวัชพืชในพืชผล และอำนวยความสะดวกในการใช้แนวทางการทำฟาร์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คือ

การผลิตอาหารที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้และสารพิษเช่นสารพิษจากเชื้อรา
การพัฒนาพืชผลด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยแก้ปัญหาการขาดวิตามินและสารอาหาร
การใช้พืชเทคโนโลยีชีวภาพที่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลงและช่วยให้เกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูก

ภาพจาก : www.pexels.com

2. เติมพลังให้โลก

เทคโนโลยีชีวภาพใช้กระบวนการทางชีวภาพ คือการหมักและควบคุมตัวเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพ เช่นเอนไซม์ ยีสต์ และจุลินทรีย์อื่นๆ ให้กลายเป็นโรงงานผลิตด้วยกล้องจุลทรรศน์เทคโนโลยีชีวภาพช่วยเติมเชื้อเพลิงให้กับโลก เช่น

ดึงศักยภาพของเสียจากชีวมวลแบบดั้งเดิมมาใช้อย่างเต็มที่ ลดการสร้างของเสียและการใช้น้ำ
ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 52% หรือมากกว่า
ลดการใช้และพึ่งพาปิโตรเคมี
ปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงานได้ถึง 50% ขึ้นไป
ลดอุณหภูมิสำหรับความสะอาดเสื้อผ้าและอาจจะช่วยประหยัดเงินได้ถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
ปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการผลิตสารเคมี 80% ขึ้นไป

ภาพจาก : pexels.com

3. รักษาโลก

เทคโนโลยีชีวภาพกำลังช่วยรักษาโลก (ด้วยการควบคุมกล่องเครื่องมือของธรรมชาติ) และใช้องค์ประกอบทางพันธุกรรมของเราเองเพื่อรักษาและชี้แนะแนวการวิจัย เช่น

ลดการต่อสู้กับความเจ็บป่วยร้ายแรงและภัยคุกคามในชีวิตประจำวันที่เผชิญกับประเทศที่กำลังพัฒนา
การสร้างเครื่องมือที่แม่นยำสำหรับการตรวจโรคต่างๆ
ช่วยปรับแต่งการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและผลข้างเคียง
การเปลี่ยนแปลงโอกาสของภาวะที่คุกคามชีวิตที่ร้ายแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก
ช่วยชีวิตเด็กได้หลายล้านคน
ช่วยลดอัตราการติดเชื้อ
และอื่นๆ อีกมากมาย

ภาพจาก : pexels.com

เห็นไหมครับว่า “เทคโนโลยีชีวภาพ” สำคัญต่อโลกของเราอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพมากยิ่งขึ้นและส่งผลต่อไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของผู้อ่านได้มากยิ่งขึ้นที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ และคำนึงถึงประโยชน์ที่มีต่อผู้คนในสังคมมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและวัคซีนเทคโนโลยีชีวภาพมากกว่า 250 รายการสำหรับผู้ป่วยจำนวนมากสำหรับโรคที่รักษาไม่ได้ก่อนหน้านี้เกษตรกรมากกว่า 13.3 ล้านคนทั่วโลกใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต ป้องกันความเสียหายจากแมลงและศัตรูพืช

โดยการทำฟาร์มสิ่งแวดล้อมและมีการสร้างโรงกลั่นชีวภาพมากกว่า 50 แห่งทั่วอเมริกาเหนือเพื่อทดสอบและปรับแต่งเทคโนโลยีเพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและสารเคมีจากชีวมวลหมุนเวียน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้นั่นเอง

เห็นไหมครับว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพล่าสุดช่วยให้เราเตรียมความพร้อมและรับมือกับความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของสังคมได้ครับ