การทำ SEO ไม่ใช่แค่การใส่ "คีเวิร์ด" อีกต่อไป

การทำ SEO ไม่ใช่แค่การใส่ "คีเวิร์ด" อีกต่อไป

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization ปรับแต่งโครงสร้างหน้าตาเว็บไซต์ การปรับแต่งโค้ด ปรับแต่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ และการเขียนเนื้อหาให้เป็นไปตามความต้องการของ เว็บ Search Engine ในฐานะผู้ให้บริการอย่างแบรนด์ที่มีสินค้า Publisher ที่มีคอนเท้นท์ของตัวเองต่างก็ต้องการทำ SEO เพื่อให้เวลาที่ลูกค้าทำการค้นหาใน Search Engine จะได้เจอสินค้าของแบรนด์นั้นๆได้ทันที หนึ่งในวิธีการทำ SEO ให้กับคอนเท้นท์ คือ การใส่ “คีย์เวิร์ด” ลงไป ยิ่งในเนื้อหามีคีย์เวิร์ดเยอะและดีมากเท่าไหร่ ย่อมมีโอกาสที่จะทำให้บทความนั้นปรากฎบน Search Engine 

แต่ในปัจจุบันนี้ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่ใส่  “คีย์เวิร์ด” เพียงอย่างเดียว

ในอดีต คำว่า SEO อาจย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimization
แต่ในปี 2020 คำว่า SEO อาจหมายถึง Search Experience Optimization

การใส่คีย์เวิร์ดจำนวนมากลงในบทความ เพื่อทำ SEO ให้ Search Engine ต่างๆ สามารถ “ช่วยในการทำ SEO ได้จริง แต่จะไม่ใช่ทั้งหมดอีกต่อไป”

 

4 เทรนด์ SEO ในปี 2020 ที่กำลังมา
1. Featured Snippets
Featured Snippets คือ ข้อมูลที่ปรากฎบน Search Engine ของ Google ในตำแหน่งด้านบนสุด เมื่อเวลา Search Google ไปด้วยประโยคที่เป็นคำถาม จะมีคำตอบปรากฏขึ้นด้านบนสุด เพื่อตอบคำถามนั้นเบื้องต้น และอยู่ก่อนตำแหน่งของลิ้งค์เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-10 ของ Google นั่นแหละ เรียกว่า Featured Snippets 

หากเว็บไซต์ของคุณปรากฎอยู่ในตำแหน่งของ Featured Snippets ก็จะทำให้คนรู้จักเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น แม้ว่าเว็บไซต์คุณ อาจไม่ได้ติดอันดับ 1 ของ Google แต่หากสามารถตอบคำถามเบื้องต้นได้ และ Google รู้สึกว่าเนื้อหาของคุณตอบโจทย์ให้กับยูสเซอร์ได้ เว็บไซต์ของคุณก็อาจจะมาปรากฎบนตำแหน่งของ Featured Snippets ได้ หรืออันดับ 0 (Position Zero) ของ Google ได้นั่นเอง

2. WebP Image
WebP Image คือ ไฟล์สกุลภาพแบบหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google โดย WebP จะกลายเป็นไฟล์สกุลภาพที่กลายเป็นเทรนด์ในปี 2020 เนื่องจากข้อดีของไฟล์สกุลภาพ ที่คุณภาพเทียบเท่ากับ JPEG และ PNG นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF ได้เช่นกัน 

ขณะเดียวกันบราวเซอร์ต่างๆ เริ่มรองรับไฟล์สกุล WebP มากขึ้น ยกเว้นเพียงแต่ Safari ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้งาน ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการให้ฝั่งโปรแกรมเมอร์ทำให้เว็บไซต์ Detect ไฟล์สกุลภาพ หากเข้าจาก Safari สกุลภาพก็จะเปลี่ยนไปเป็นสกุลเดิม เพื่อให้สามารถโหลดภาพได้ปกติ

3. Voice Search
อีกหนึ่งเทรนด์ SEO ในปี 2020 คือ การค้นหาข้อมูลด้วยเสียง เมื่อก่อนนั้น หากใช้ Voice Search อาจพบปัญหาว่า พูดไปแล้ว เครื่องมือไม่เข้าใจ ไม่สามารถทำการค้นหาในสิ่งที่อยากรู้ได้ เพราะภาษาที่พูดออกไป กับ ภาษาที่โปรแกรมรับรู้ต่างกัน แต่ทุกวันนี้ Voice Search สามารถค้นหาด้วยภาษาพูดของมนุษย์ได้มากขึ้นแล้ว สามารถพูดแบบสบายๆ และโปรแกรมสามารถค้นหาตามภาษาพูดของยูสเซอร์ได้มากขึ้น ทำให้การใช้งาน Voice Search จะเพิ่มมากขึ้น

Voice Search จะเริ่มมีลักษณะเป็นคำถามที่ถามยาวมากขึ้น และเมื่อทำการค้นหาข้อมูลโดยการตั้งคำถามด้วยเสียง ก็จะทำให้พบกับ Featured Snippets ซึ่งความพิเศษคือ เมื่อถามด้วยเสียง Google ก็จะตอบกลับด้วยเสียงเช่นกัน โดย Featured Snippets ที่รองรับเสียง ก็จะตอบกลับเป็นเสียง หรือ อ่านข้อความบน Featured Snippets ให้นั่นเอง


4. AI
แม้ว่า AI อาจไม่ใช่สิ่งที่ใหม่ แต่ AI จะกลายเป็นสิ่งที่อยู่กับเราต่อไปในอนาคต Google ได้ประกาศตัวว่าเป็น AI First Company tools ดังนั้นทุกไอเท็มของ Google จึงมีการนำ AI เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตลอด

AI คือสิ่งที่ Google นำมาใช้ในการประมวลผลเพื่อหาความตั้งใจของยูสเซอร์ ดูว่ายูสเซอร์อยากทราบอะไรจริงๆ โดยที่เราจะไม่สามารถ Optimize ต่อไปได้แล้ว

มุมมองของการใช้ AI จะไม่สามารถ Optimize ได้แล้ว เนื่องจาก AI จะคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยูสเซอร์ ทำให้การทำ SEO ไม่ใช่เพียงแค่การใส่คีย์เวิร์ดย้ำในบทความเพียงอย่างเดียว แต่การ Optimize ที่ดีที่สุด คือ การเขียนเนื้อหาให้ออกมาธรรมชาติที่สุดและมีประโยชน์ที่สุด เพื่อให้ AI คัดเลือกเนื้อหานั้นออกมาแสดงผล

 


ที่มา : marketingoops